การลาออกครั้งสุดท้ายของ ภาณุมาศ ทองธนากุล

ภาณุมาศ

ทุกวันนี้ชีวิตของ ผู้เขียน ‘การลาออกครั้งสุดท้าย’ เป็นอย่างไรบ้าง ทำอะไร อยู่อย่างไร มีชีวิตที่ดีแค่ไหน

ภาณุมาศ : ผมเพิ่งแต่งงานครับ และกำลังสร้างครอบครัวเล็กๆ ขึ้นมา ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับการพยายามทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวให้ดีที่สุด ทุกวันนี้ก็พยายามทำให้เกิดสิ่งดีๆ กับคนที่ผมรัก ผมเคยหาคำตอบมาตลอดว่าตกลงแล้ว ‘ชีวิตที่ดี’ ของคนเรามันคืออะไรกันแน่ ซึ่งผมพบว่าคำตอบของผมมันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาในแต่ละช่วงวัย แต่ไม่นานมานี้ผมก็ได้คำตอบที่ชัดเจนกับตัวเองแล้วว่า ชีวิตที่ดี ก็คือ ชีวิตที่เรารู้สึกดีกับมัน ผมไม่รู้ว่าคนอื่นจะเห็นด้วยกับชีวิตที่ดีของผมหรือเปล่า เพราะถ้าเขามาเห็นชีวิตในแต่ละวันของผม เขาอาจจะสงสารก็ได้ เพราะมันราบเรียบมาก ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลย ไม่เห็นได้กินร้านอาหารหรูๆ ไม่เห็นได้ไปเมืองนอกเลย แต่ผมชอบชีวิตตัวเองทุกวันนี้มากเลยนะ มันเป็นชีวิตที่สบายใจดี ได้ทำงานเขียนหนังสือที่บ้าน มีเวลาดูหนังกับภรรยา อ่านหนังสือที่ชอบๆ เล่นกับหมา นั่งคุยเล่นกับพ่อแม่ ถ้าจะออกไปนอกบ้านก็ออกไปบรรยายตามองค์กรต่างๆ ที่ได้รับเชิญ ส่วนใหญ่ก็ไปพูดเรื่องจะทำยังไงให้คนทำงานมีความสุขและมีเรี่ยวแรงในการทำงาน ซึ่งสภาพแวดล้อมในชีวิตเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการปล่อยสิ่งต่างๆ ตามยถากรรม แต่เกิดจากการใช้ชีวิตอย่างใส่ใจและวางแผนจัดการจนสิ่งที่เราปรารถนานั้นเกิดขึ้น

คงมีหลายคนที่คิดแบบคุณ อยากเป็นแบบคุณ เขาอาจจะลองแล้วแต่ทำไม่ได้แบบคุณ คุณคิดว่าเป็นเพราะอะไร และตัวคุณแค่โชคดีกว่าคนอื่นๆ ใช่หรือไม่

ภาณุมาศ : ตอนเริ่มทำงานครั้งแรก ผมเคยฝันอยากเป็นผู้บริหารระดับสูงในองค์กรใหญ่ๆ อยากได้เงินเดือนสูงๆ อยากมีรถประจำตำแหน่ง แต่ผมก็ไม่สามารถทำได้ ทั้งที่พยายามแล้ว เคยถามตัวเองนะว่าทำไมคนอื่นทำกันได้ แต่ผมทำไม่ได้ ผมเป็นคนล้มเหลวหรือเปล่า ก็คิดว่าไม่นะ ตอนนี้เพื่อนรุ่นเดียวกันทยอยขึ้นเป็นผู้บริหารในบริษัทต่างๆ แล้ว ผมรู้ข่าวก็ดีใจกับเขา ไม่เคยน้อยใจกับเรื่องนี้ ผมรู้ดีว่าตัวเองมีข้อจำกัดและมีปัญหาในชีวิตที่ทำให้เสียเปรียบคนอื่นหลายจุด แต่ผมจะไม่เอาข้อจำกัดในชีวิตมาเป็นข้ออ้างให้ตัวเอง ไม่พยายาม ผมว่าคนเราถ้ามุ่งมั่นตั้งใจมากพอ เดี๋ยวก็จะหาทางเดินที่เหมาะกับตัวเองจนได้ นอกจากรูปแบบ การใช้ชีวิตแบบผมแล้ว ผมยังเคยเห็นการเลือกรูปแบบชีวิตที่ต่างออกไปอีกตั้งหลายแบบ เพื่อนคนหนึ่งที่เพิ่งได้คุยก็ลาออกจากบริษัทมาเป็นปีๆ แล้ว เงียบหายจากวงเพื่อนไปนาน กลับมาอีกที กลายเป็นเกษตรทำสวนผักอยู่ที่ปากช่อง ซึ่งคุยกับเขาในวันนั้นแล้วสัมผัสได้เลยว่าเขามีความสุข และรักในชีวิตของตัวเองมาก ส่วนเรื่องความโชคดี ผมก็ว่าตัวเองโชคดีที่เจอทางชีวิตทางนี้ โชคดีที่เขียนหนังสือออกมาแล้วมีคนอ่าน การคิดว่าตัวเองโชคดียังไงเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ไม่มีใครโชคดีไปได้ทุกเรื่อง สิ่งสำคัญคือ การมองหาและชื่นชมความโชคดีที่ตัวเองมี แม้จะเป็นความโชคดีที่คนอื่นมองไม่เห็น

ทุกวันนี้คุณก็คงยังต้องทำงานและหารายได้ คุณต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ซึ่งเป็นลักษณะของการดิ้นรนอีกแบบหนึ่งที่แตกต่างจากคนทำงานในองค์กร

ภาณุมาศ : ชีวิตท้าทายเราเป็นขั้นๆ เหมือนขึ้นบันได การทำงานอิสระแบบไม่อยู่ในองค์กรเราอาจรู้สึกว่าเราทำงานของเราคนเดียว สบายดี แต่จริงๆ แล้วเรากำลังมีคู่แข่งอยู่ในทุกองค์กร ความสนุกก็คือ คุณเก่งพอหรือยังกับบันไดในขั้นที่สูงขึ้น ถ้าคิดว่ายัง – ก็ต้องรีบพัฒนาตัวเอง เอาจริงเอาจังกับการทำงาน ไปพร้อมๆ กับดูแลชีวิตโดยรวมของตัวเองให้ดีที่สุด

คุณมีคำแนะนำอะไรบ้างสำหรับคนที่กำลังจะเริ่มหางานทำ เขาควรจะเริ่มจากการเป็นลูกจ้าง หรือเริ่มต้นลงมือเป็นนายตัวเองทันที และมีคำแนะนำอะไรบ้างสำหรับคนที่กำลังคิดจะลาออกครั้งสุดท้าย   

ภาณุมาศ : ตอบตัวเองให้ได้ว่ากำลังจะเดินไปสู่จุดไหน ถ้ารู้แล้ว ความยากลำบากที่เจอระหว่างทางจะไม่กวนใจเรามาก เพราะเรากำลังเขยิบเข้าใกล้เป้าหมายในทุกๆ วัน มันไม่มีคำตอบสำเร็จรูปว่าเป็นลูกจ้างหรือทำธุรกิจส่วนตัวอันไหนดีกว่ากัน เพราะที่ผ่านมาล้วนมีคนที่ประสบความสำเร็จและมีความสุขในชีวิตได้ด้วยรูปแบบที่ต่างกัน ‘เป็นอะไร’ อาจไม่สำคัญเท่ากับ ‘เป็นอย่างไร’ ไม่ว่าอยู่ในหน้าที่ไหน ลองทุ่มหัวใจทำมันดู ผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกับคนที่ทำไปเพียงแกนๆ แน่นอน เพราะเอาเข้าจริง งานทุกงาน ล้วนเกิดขึ้นมาเพื่อช่วยให้ใครสักคนมีชีวิตที่ดีขึ้นเสมอ ผมว่าในเกมชีวิต เราวัดกันยาวๆ ครับ อย่าเพิ่งเสียกำลังใจถ้าช่วงเริ่มต้นเราดูเคลื่อนที่ไปช้ากว่าเพื่อนๆ อย่าเพิ่งมองหาแต่ทางลัดสู่ความสำเร็จ เพราะบางทีจุดหมายปลายทางความสำเร็จของเราก็เกิดจากการเดินอ้อมบนเส้นทางขรุขระ ผมอาจเคยเป็นคนทำงานบริษัทที่หมกมุ่นอยู่แต่กับการหาอิสรภาพให้กับตัวเอง แต่ผมก็ไม่ได้แค่ฝันไปวันๆ ผมรองรับความคิดนั้นด้วยการเตรียมตัวและวางแผนอย่างรอบคอบรัดกุม ไม่ประมาท แม้จะมีชีวิตไม่เหมือนคนอื่น แต่ทุกวันนี้ผมก็มีความสุขกับชีวิตในแบบนี้ และดีใจเหลือเกินที่ทุกวันนี้ได้ทำงานที่มีความหมาย และรู้สึกในทุกนาทีว่าชีวิตมีอิสรภาพ

ใส่ความเห็น